ติดในส่วนเปิด tag
top of page

โอทีคิดยังไง? วิธีคำนวณง่าย ๆ ตามกฎกระทรวงแรงงาน

  • Admin Ham
  • 8 ส.ค.
  • ยาว 2 นาที

อัปเดตเมื่อ 7 วันที่ผ่านมา

วิธีคิดโอทีง่าย ๆ ทั้งรายวันและรายเดือน

ปัญหาที่พนักงานหลายคนพบเจอในการทำงานคือการไม่ทราบวิธีการคำนวณค่าตอบแทนล่วงเวลาที่ถูกต้อง ทำให้เสียสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับตามกฎหมาย บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการคิดโอทียังไงให้ถูกต้องตามกฎกระทรวงแรงงาน พร้อมยกตัวอย่างการคำนวณทั้งพนักงานรายวันและรายเดือน รวมถึงเคสพิเศษในวันหยุดต่าง ๆ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจสิทธิของตนเองและไม่ถูกเอาเปรียบจากนายจ้าง


ค่าโอทีคืออะไร

การทำงานล่วงเวลาหรือ Overtime (OT) หมายถึงช่วงเวลาที่พนักงานต้องปฏิบัติงานเกินกว่าเวลาปกติที่กำหนดในสัญญาจ้าง ซึ่งอาจเป็นการทำงานต่อหลังเวลาเลิกงาน หรือมาทำงานในวันหยุดราชการ วันหยุดประจำสัปดาห์

การทำงานล่วงเวลารวมกันทั้งหมดต้องไม่เกิน 36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และหากทำงานต่อเนื่องเกิน 2 ชั่วโมง ลูกจ้างมีสิทธิพักผ่อนอย่างน้อย 20 นาที 


วิธีคิดโอทีของพนักงาน


วิธีคิดโอทีของพนักงาน

การคำนวณค่าโอทีนั้นมีหลักเกณฑ์ที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทของพนักงานว่าเป็นรายวันหรือรายเดือน และยังรวมถึงการทำงานในวันปกติหรือวันหยุดด้วย ลองมาดูกันว่าโอทีคิดยังไงในแต่ละกรณี


วิธีคิดโอทีของพนักงานประจำ

พนักงานที่ได้รับเงินเดือนรายเดือน จะใช้สูตร : (เงินเดือน ÷ 30 วัน ÷ ชั่วโมงงานปกติ) × 1.5 หรือ 3 เท่า × จำนวนชั่วโมงที่ทำ OT

ยกตัวอย่าง พนักงานที่มีเงินเดือน 25,000 บาท ทำงานปกติวันละ 8 ชั่วโมง หากทำงานล่วงเวลาในวันธรรมดา 3 ชั่วโมง จะคำนวณได้ดังนี้

ค่าจ้างต่อชั่วโมง = 25,000 ÷ 30 ÷ 8 = 104.17 บาท ค่าโอทีที่ได้รับ = 104.17 × 1.5 × 3 = 468.75 บาท


วิธีคิดโอทีของพนักงานรายวัน

พนักงานรายวันจะใช้สูตร : (ค่าจ้างต่อวัน ÷ ชั่วโมงงานปกติ) × 1.5 หรือ 3 เท่า × จำนวนชั่วโมงที่ทำ OT

ตัวอย่าง พนักงานรายวันที่ได้ค่าจ้างวันละ 350 บาท ทำงานปกติ 8 ชั่วโมงต่อวัน หากทำงานล่วงเวลาในวันธรรมดา 2 ชั่วโมง

ค่าจ้างต่อชั่วโมง = 350 ÷ 8 = 43.75 บาท ค่าโอทีที่ได้รับ = 43.75 × 1.5 × 2 = 131.25 บาท


วิธีคิดโอทีในวันหยุด


วิธีคิดโอทีในวันหยุด

การทำงานในวันหยุดจะมีการคิดค่าตอบแทนที่แตกต่างจากวันปกติ โดยจะขึ้นอยู่กับว่าลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุดหรือไม่ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก


กรณีลูกจ้างได้รับวันหยุด

ลูกจ้างที่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด เช่น พนักงานรายเดือน จะได้รับค่าตอบแทนการทำงานในวันหยุดไม่น้อยกว่า 1 เท่าของค่าจ้างต่อชั่วโมง

สูตรการคำนวณ : (เงินเดือน ÷ 30 วัน ÷ ชั่วโมงงานปกติ) × 1 × จำนวนชั่วโมงที่ทำงาน

ยกตัวอย่าง พนักงานรายเดือนที่มีเงินเดือน 30,000 บาท มาทำงานในวันหยุดครบ 8 ชั่วโมง

ค่าจ้างต่อชั่วโมง = 30,000 ÷ 30 ÷ 8 = 125 บาท ค่าตอบแทนที่ได้รับ = 125 × 1 × 8 = 1,000 บาท


กรณีลูกจ้างไม่ได้รับวันหยุด

ลูกจ้างที่ไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด เช่น พนักงานรายวัน จะได้รับค่าตอบแทนการทำงานในวันหยุดไม่น้อยกว่า 2 เท่าของค่าจ้างต่อชั่วโมง

สูตรการคำนวณ : (ค่าจ้างต่อวัน ÷ ชั่วโมงงานปกติ) × 2 × จำนวนชั่วโมงที่ทำงาน

ตัวอย่าง พนักงานรายวันที่ได้ค่าจ้างวันละ 450 บาท มาทำงานในวันหยุดครบ 8 ชั่วโมง

ค่าจ้างต่อชั่วโมง = 450 ÷ 8 = 56.25 บาท ค่าตอบแทนที่ได้รับ = 56.25 × 2 × 8 = 900 บาท


ไม่จ่าย OT ผิดกฎหมายไหม

หากนายจ้างให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาเกินกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน หรือเกินกว่าที่ตกลงกันไว้ในสัญญาจ้าง และไม่ยอมจ่ายค่าโอทีตามกฎหมายแรงงาน ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย นายจ้างอาจต้องถูกปรับไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งเป็นการคุ้มครองสิทธิของพนักงานให้ได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม


สรุปบทความ

การรู้ว่าโอทีคิดยังไงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทั้งนายจ้างและลูกจ้าง เพราะช่วยให้มั่นใจได้ว่าการทำงานล่วงเวลาจะได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรมและถูกต้องตามกฎหมายแรงงานที่กำหนดไว้ ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและยุติธรรมสำหรับทุกฝ่าย


MAC-5 Legacy: โปรแกรม ERP ลดงาน OT นักบัญชี เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจยุคใหม่

MAC-5 Legacy คือ โปรแกรม ERP (Enterprise Resource Planning) ชั้นนำที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับการทำงานด้านบัญชีและการบริหารจัดการองค์กรของคุณ เราเชี่ยวชาญเป็นพิเศษด้าน บัญชีต้นทุน และเข้าใจถึงความท้าทายที่นักบัญชีต้องเผชิญ ด้วยระบบอัจฉริยะที่ช่วย ลดงานซ้ำซ้อน คุณจะสามารถบอกลาการทำงานล่วงเวลา (OT) ได้อย่างแท้จริง


บอกลา OT ด้วยระบบบัญชีอัจฉริยะจาก MAC-5 Legacy

หากคุณเป็นนักบัญชีที่มองหาตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความยุ่งยากในการทำงาน MAC-5 Legacy คือคำตอบ ด้วยคุณสมบัติเด่นที่ช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อนอย่างเห็นได้ชัด:


  • บันทึกบัญชีอัตโนมัติ: หมดปัญหาการคีย์ข้อมูลซ้ำซ้อน เพราะโปรแกรมจะบันทึกรายการบัญชีจากระบบเจ้าหนี้ (AP), ลูกหนี้ (AR), และคลังสินค้า (IC) เข้าสู่สมุดบัญชีแยกประเภท (GL) โดยอัตโนมัติ ทำให้งานง่าย สะดวก และแม่นยำขึ้น


  • รายงานครบครัน ตอบโจทย์นักบัญชี: ไม่ต้องเสียเวลานั่งทำรายงานเอง เพราะ MAC-5 Legacy มีรายงานหลากหลาย เช่น รายงานการขายรายตัว, รายงานต้นทุนการผลิต, รายงานวิเคราะห์สินค้าไม่เคลื่อนไหว, รายงานอายุลูกหนี้, รายงานบิลค้างรับ และอีกมากมาย พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ผู้บริหารได้ทันที


หากสนใจโซลูชัน MAC-5 Legacy ติดต่อเราวันนี้!

หากสนใจบริการ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม MAC-5 Legacy สามารถติดต่อฝ่ายขายผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลย:


โทรศัพท์: 085-113-4674, 094-854-9296


Line ID: @mac5legacy

 
 
 

Comments


bottom of page