ติดในส่วนเปิด tag
top of page

6 กระบวนการจัดการระบบ ERP จัดซื้อสำหรับธุรกิจยุคดิจิตอล

ในยุคดิจิทัลที่ธุรกิจแข่งขันกันสูง การจัดการห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพกลายเป็นหัวใจสำคัญสำหรับความสำเร็จ ระบบ ERP จัดซื้อ เข้ามามีบทบาทสำคัญช่วยให้องค์กรต่างๆ บริหารจัดการกระบวนการจัดซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และแม่นยำ บทความนี้จะพาทุกท่านไปเจาะลึกถึงกระบวนการใช้ระบบ ERP ในการจัดซื้อที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างราบรื่น 





1.วางแผนและการกำหนดความต้องการ

การใช้ระบบ ERP จัดซื้อในการเริ่มต้นด้วยการวางแผนและกำหนดความต้องการในการซื้อวัตถุดิบหรือสินค้าที่จะใช้ในการผลิตหรือบริการต่าง ๆ โดยใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเช่นประวัติการใช้งาน แผนการผลิต หรือแผนการขายเป็นต้น1.1 การ


1.1 รวบรวมข้อมูล

  • รวบรวมข้อมูลการใช้งานวัตถุดิบและสินค้าคงคลังจากระบบต่างๆ ภายในองค์กร เช่น ระบบผลิต ระบบขาย

  • วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อคาดการณ์ความต้องการในอนาคต

  • นำข้อมูลมาวิเคราะห์ควบคู่กับปัจจัยภายนอก เช่น เศรษฐกิจ สภาพตลาด แนวโน้มความต้องการของลูกค้า


1.2 การจัดทำแผนจัดซื้อ

  • ระบุชนิด ปริมาณ และเวลาที่ต้องการจัดซื้อวัตถุดิบและสินค้า

  • เปรียบเทียบราคาและคุณภาพจากซัพพลายเออร์ต่างๆ

  • วางแผนกลยุทธ์การจัดซื้อเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ


1.3 การสร้างคำสั่งซื้อ

  • สร้างคำสั่งซื้ออิเล็กทรอนิกส์ (e-procurement) ผ่านระบบ ERP

  • ติดตามสถานะคำสั่งซื้อและการจัดส่ง

  • จัดการเอกสารและข้อมูลการจัดซื้ออย่างเป็นระบบ


1.4 การวิเคราะห์และประเมินผล

  • วิเคราะห์ประสิทธิภาพของซัพพลายเออร์

  • ติดตามผลการดำเนินงานตามแผนจัดซื้อ

  • ระบุจุดอ่อนและโอกาสในการปรับปรุง


2. เสนอซื้อและการเลือกผู้จัดจำหน่าย

การเลือกผู้จัดจำหน่ายที่เหมาะสมโดยใช้ระบบ ERP เพื่อจัดทำเอกสารเสนอซื้อ การตรวจสอบคุณภาพและการเลือกซื้อตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ราคา


2.1 การจัดทำเอกสารเสนอซื้อ

  • สร้างเอกสารเสนอซื้อ (Request for Proposal - RFP) โดยระบุรายละเอียดสินค้าหรือวัตถุดิบที่ต้องการ

  • กำหนดคุณสมบัติและเกณฑ์การคัดเลือกผู้จัดจำหน่าย

  • ส่งเอกสาร RFP ไปยังซัพพลายเออร์ที่คัดเลือกไว้


2.2 การรวบรวมข้อเสนอและการประเมินผล

  • รวบรวมข้อเสนอจากซัพพลายเออร์ที่สนใจ

  • วิเคราะห์และเปรียบเทียบข้อเสนอตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น ราคา คุณภาพ เงื่อนไขการชำระเงิน บริการหลังการขาย

  • คัดเลือกซัพพลายเออร์ที่เสนอข้อเสนอที่ดีที่สุด


2.3 การเจรจาต่อรอง

  • เจรจาต่อรองราคาและเงื่อนไขต่างๆ กับซัพพลายเออร์ที่คัดเลือก

  • บรรลุข้อตกลงร่วมกัน


2.4 การสร้างใบสั่งซื้อ

  • สร้างใบสั่งซื้อ (Purchase Order - PO) อิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ ERP

  • ระบุรายละเอียดสินค้าหรือวัตถุดิบ ราคา เงื่อนไขการชำระเงิน และวันที่จัดส่ง

  • ส่งใบสั่งซื้อไปยังซัพพลายเออร์


3. การรับสินค้าและการตรวจสอบคุณภาพ


การรับสินค้าโดยใช้ระบบ ERP เพื่อบันทึกข้อมูลการรับสินค้าและตรวจสอบคุณภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในระบบ


3.1 การบันทึกข้อมูลการรับสินค้า

  • บันทึกข้อมูลการรับสินค้าเข้าระบบ ERP

  • ระบุรายละเอียดสินค้าหรือวัตถุดิบ ปริมาณ หมายเลขประจำ lot และวันที่รับสินค้า

  • เชื่อมโยงข้อมูลการรับสินค้ากับใบสั่งซื้อ


3.2 การตรวจสอบคุณภาพ

  • ตรวจสอบสินค้าหรือวัตถุดิบตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในระบบ

  • ตรวจสอบสภาพสินค้า บรรจุภัณฑ์ เอกสาร และคุณสมบัติอื่นๆ

  • บันทึกผลการตรวจสอบคุณภาพในระบบ


3.3 การจัดการสินค้าที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ

  • แยกสินค้าที่ไม่ผ่านการตรวจสอบออกจากสินค้าที่ผ่านการตรวจสอบ

  • ระบุสาเหตุของการไม่ผ่านการตรวจสอบ

  • ดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ เช่น การส่งคืนสินค้า การซ่อมแซม หรือการทำลายสินค้า


3.4 การปรับปรุงสต็อกสินค้าคงคลัง

  • ปรับปรุงสต็อกสินค้าคงคลังตามจำนวนสินค้าที่รับเข้า

  • แยกประเภทสินค้าที่ผ่านการตรวจสอบและสินค้าที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ


4. การจัดการคลังสินค้าและการควบคุมสต็อก 

การจัดเก็บและบริหารจัดการคลังสินค้าโดยใช้ระบบ ERP เพื่อติดตามยอดคงเหลือและการเคลื่อนไหวของสินค้า


4.1 การติดตามยอดคงเหลือสินค้า

  • ติดตามจำนวนสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์

  • แยกประเภทสินค้าตามประเภท สถานที่ และสถานะ

  • แจ้งเตือนเมื่อสินค้าคงคลังใกล้หมดหรือมีปริมาณมากเกินไป


4.2 การจัดการการเคลื่อนไหวของสินค้า

  • บันทึกการเคลื่อนไหวของสินค้าเข้า-ออกคลังสินค้า

  • ระบุที่มาปลายทางของสินค้า

  • วิเคราะห์รูปแบบการเคลื่อนไหวของสินค้า


4.3 การจัดการพื้นที่จัดเก็บ

  • จัดสรรพื้นที่จัดเก็บสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

  • เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่คลังสินค้า

  • ลดต้นทุนการจัดเก็บ


4.4 การควบคุมสินค้าคงคลัง

  • กำหนดระดับสต็อกสินค้าคงคลังที่เหมาะสม

  • สั่งซื้อสินค้าเพิ่มเติมเมื่อสินค้าคงคลังใกล้หมด

  • ป้องกันสินค้าคงคลังล้นสต็อก


4.5 การจัดการสินค้าที่หมดอายุ

  • ติดตามสินค้าที่ใกล้หมดอายุ

  • ดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ เช่น การลดราคา การขายส่งออก หรือการทำลายสินค้า


5. การชำระเงินและบัญชี

การจัดการกระบวนการชำระเงินและบันทึกข้อมูลการเงินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อด้วยระบบ ERP เพื่อความถูกต้องของการเงิน


5.1 การประมวลผลใบแจ้งหนี้

  • รับใบแจ้งหนี้จากซัพพลายเออร์

  • ตรวจสอบความถูกต้องของใบแจ้งหนี้

  • เชื่อมโยงใบแจ้งหนี้กับใบสั่งซื้อ

  • บันทึกข้อมูลการชำระเงินในระบบ


5.2 การชำระเงิน

  • สร้างเอกสารการชำระเงิน

  • ชำระเงินให้กับซัพพลายเออร์

  • บันทึกข้อมูลการชำระเงินในระบบ


5.3 การปรับปรุงบัญชี

  • ปรับปรุงบัญชีแยกประเภทตามรายการค่าใช้จ่าย

  • บันทึกรายการต้นทุนสินค้าคงคลัง

  • เตรียมงบการเงิน


5.4 การรายงาน

  • สร้างรายงานการชำระเงิน

  • สร้างรายงานวิเคราะห์ค่าใช้จ่าย

  • สร้างงบการเงิน


6. การวิเคราะห์และการปรับปรุง

การใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้จากระบบ ERP เพื่อวิเคราะห์ผลการจัดซื้อและปรับปรุงกระบวนการในอนาคต


6.1 การวิเคราะห์การใช้จ่าย

  • วิเคราะห์ว่าองค์กรใช้จ่ายเงินไปกับอะไรมากที่สุด ระบุหมวดหมู่สินค้า ผู้ขาย และรายการสินค้าที่ใช้จ่ายสูง

6.2 การวิเคราะห์ประสิทธิภาพของผู้ขาย

  •  เปรียบเทียบประสิทธิภาพของผู้ขายแต่ละราย พิจารณาจากราคา ระยะเวลาการจัดส่ง คุณภาพสินค้า บริการหลังการขาย ฯลฯ

6.3 การวิเคราะห์สินค้าคงคลัง

  • วิเคราะห์ระดับสินค้าคงคลัง ระบุสินค้าที่ขายดี สินค้าที่ขายช้า และสินค้าที่ล้าสมัย

6.4 การวิเคราะห์วงจรการจัดซื้อ

  • วิเคราะห์ระยะเวลาที่ใช้ตั้งแต่การขอซื้อจนถึงการรับสินค้า ระบุขั้นตอนที่ใช้เวลานาน และหาโอกาสในการปรับปรุง



ERP มีอิทธิผลต่อการบริหารธุรกิจอย่างไร มากน้อยเพียงใด?

ระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) หรือ ระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร นั้นเปรียบเสมือนหัวใจหลักที่ขับเคลื่อนธุรกิจให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการรวบรวมข้อมูลจากทุกส่วนขององค์กรเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


ระบบ ERP ส่งเสริมต่อการบริหารจัดการธุรกิจ

  1. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

    • ลดงานซ้ำซ้อน: ระบบ ERP ช่วยลดการป้อนข้อมูลซ้ำซ้อน ทำให้พนักงานมีเวลาไปทำงานที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้มากขึ้น

    • อัตโนมัติ: กระบวนการทำงานหลายอย่างสามารถทำให้อัตโนมัติได้ เช่น การสร้างใบสั่งซื้อ การจัดทำบัญชี ทำให้ลดความผิดพลาดและประหยัดเวลา

    • เพิ่มความเร็วในการทำงาน: การเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การตัดสินใจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

  2. ปรับปรุงการตัดสินใจ

    • ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน: ระบบ ERP ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ทำให้ผู้บริหารสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง

    • ภาพรวมของธุรกิจ: ผู้บริหารสามารถมองเห็นภาพรวมของธุรกิจได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  3. ลดต้นทุน

    • ลดต้นทุนในการดำเนินงาน: การลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อนและการลดความผิดพลาด ทำให้ลดต้นทุนในการดำเนินงานได้

    • ลดต้นทุนสินค้าคงคลัง: ระบบ ERP ช่วยให้บริหารจัดการสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการขาดแคลนสินค้าและลดต้นทุนในการเก็บรักษาสินค้า

    • ลดต้นทุนในการผลิต: การวางแผนการผลิตที่แม่นยำ ช่วยลดการผลิตสินค้าเกินความจำเป็นและลดต้นทุนในการผลิต

  4. เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

    • ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็ว: ระบบ ERP ช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

    • ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว: ระบบ ERP ช่วยให้บริษัทสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว

    • สร้างความแตกต่าง: องค์กรที่ใช้ระบบ ERP จะมีความได้เปรียบในการแข่งขันเหนือคู่แข่งที่ยังไม่ได้นำระบบ ERP มาใช้


ระบบ ERP ในภาคธุรกิจต่างๆ

  • อุตสาหกรรมการผลิต

  • อุตสาหกรรมบริการ

  • อุตสาหกรรมค้าปลีก

  • อุตสาหกรรมนำเข้าส่งออก

  • อุตสหกรรมซื้อมาขายไป 

  • ธุรกิจร้านอาหาร คลัวกลาง 

  • ธุรกิจด้านบริการ


ระบบ ERP นั้นมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดต้นทุน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันขององค์กร หากธุรกิจของคุณต้องการเติบโตและประสบความสำเร็จ การลงทุนในระบบ ERP จึงเป็นสิ่งที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง การใช้ระบบ ERP จัดซื้อสำหรับธุรกิจ ไม่เพียงแต่ช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ แต่ยังช่วยในการลดความขัดแย้งในกระบวนการซื้อขาย และเพิ่มความโปร่งใสในการบริหารจัดการทรัพยากรขององค์กรอย่างมาก 


Mac5 Legacy เราเป็นที่ปรึกษาด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีที่มุ่งมั่นเพื่อพลิกโฉมวิธีการทำงานในองค์กรของคุณทั้งในกรุงเทพ และประเทศไทยให้ทันสมัยขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือในการปรับปรุงขั้นตอนการทำงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารจัดการ และการดำเนินงาน ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในระบบ ERP และ MRP เรามั่นใจว่าจะช่วยให้ธุรกิจของคุณก้าวไปสู่อนาคตที่ดีกว่าที่เคย ติดต่อขอรับคำปรึกษาได้ที่ https://www.mac5legacy.com


Comments


bottom of page