การแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมกับการล็อกดาวน์ตามคำสั่ง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงความต้องการของลูกค้าและตลาด บังคับให้บริษัทต่าง ๆ ต้องปรับตัวเข้ากับ หรือสื่ออีกนัยนึงได้ว่า ผู้ที่ต้องการคงอยู่ในธุรกิจต้องตาม เทรนด์ Digital Transformation ให้ทัน
บทความนี้จะแสดงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่โดดเด่นที่สุดที่กำลังได้รับแรงผลักดันในปัจจุบัน บางอันอาจจะคุ้นเคยอยู่แล้วเพราะเป็นนวัตกรรมที่มีการพัฒนามายาวนาน ดังนั้นเราจะให้รายละเอียดแต่ละข้อเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจว่าแนวโน้มเหล่านี้จะส่งผลต่อธุรกิจในปีต่อ ๆ ไปอย่างไร
เพื่อรักษาความเกี่ยวข้องในยุคดิจิทัล การบริการลูกค้าที่ดีขึ้น พนักงานมีประสิทธิผลมากขึ้น การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น เป็นเพียงข้อดีบางประการของ Digital Transformation ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่หลายองค์กรเริ่มนำแนวทางดิจิทัลมาใช้เป็นอันดับแรก
เทรนด์ Digital Transformation ที่มาแรงที่สุดในปี 2023
1. โรคระบาดเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
การแพร่ระบาดรวมถึงมาตรการล็อกดาวน์ การเว้นระยะห่างทางสังคม และการกักกันโรค ส่งผลให้ธุรกิจต่าง ๆ ต้องเอาตัวรอด ซึ่งธุรกิจที่มุ่งมั่นในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation) ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะพบว่าตนอยู่ในสถานะที่ดีกว่าในการฝ่าฟันพายุทางเศรษฐกิจ
ประการแรกบริษัทที่ได้จัดเตรียมพนักงานส่วนหนึ่งไว้ทำงานจากระยะไกลก่อนเกิดการแพร่ระบาด ในขณะเดียวกัน ธุรกิจที่มองเห็นข้อดีของการทำธุรกรรมไร้เงินสด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านโทรศัพท์มือถือ ไม่เพียงแต่สามารถต้านทานการแพร่ระบาดได้เท่านั้น แต่ยังเติบโตได้อีกด้วย ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่รุนแรงจากการแพร่ระบาดได้ดีที่สุด
หลังการแพร่ระบาด การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบจึงพบเห็นได้มากขึ้น ตั้งแต่โซลูชันด้านสุขภาพดิจิทัล ห้องเรียนเสมือนจริง กิจกรรมเสมือนจริง การสตรีม และการใช้เนื้อหาดิจิทัล ไปจนถึงการทำงานแบบ Omni Channel หรือ ทำการตลาดที่ผสานทุกช่องทางเข้าไว้ด้วยกัน และการทำงานระยะไกล
2. การเชื่อมต่อที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายที่ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่เนื่องจากมีการเชื่อมต่อที่จำกัด ตัวอย่างเช่น ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติจำเป็นต้องสื่อสารกับยานพาหนะอื่น ๆ บนท้องถนนอย่างต่อเนื่อง เพราะต้องรับและถ่ายทอดข้อมูลจำนวนมากทั้งหมดในคราวเดียว ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ต้องการการเชื่อมต่อที่รวดเร็วกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ในแง่เดียวกัน เทคโนโลยีที่จับต้องได้และเมืองอัจฉริยะไม่สามารถนำไปใช้ได้อย่างเต็มที่เนื่องจากปัญหาการเชื่อมต่อ อย่างไรก็ตามในปีหน้าเราคาดว่าปัญหาเหล่านี้จะได้รับการแก้ไข นั่นเป็นเพราะว่า เทรนด์ Digital Transformation จะได้รับความสนใจมากขึ้น
3. กรณีการใช้งานเพิ่มเติมสำหรับ Blockchain
Blockchain ได้รับการเผยแพร่มานานพอสมควร แต่ยังมีปัญหามากมายเกี่ยวกับการใช้งาน อย่างไรก็ตาม ในปี 2024 เทคโนโลยีดังกล่าวจะเป็นมากกว่าคำศัพท์ยอดนิยม จนถึงขณะนี้โซลูชันที่ได้รับการพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาที่กล่าวถึงข้างต้นคือการสร้างเวอร์ชัน Plug-and-Play วิธีนี้ทำให้ Blockchain ง่ายต่อการเข้าใจและปรับใช้ ด้วยการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับสกุลเงินดิจิทัล Blockchain จึงเป็นหนึ่งในแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation) ที่ล้ำสมัยที่สุดในบริการทางการเงิน
4. ยานพาหนะขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว บวกกับการเชื่อมต่อที่มากขึ้นในรูปแบบของเครือข่าย 5G ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ นั่นเป็นเพราะว่าลูกค้าก็ต้องการความทันสมัย ชื่นชอบการเชื่อมต่อที่ราบรื่นควบคู่ไปกับประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ผลลัพธ์ที่ได้คือผู้ซื้อรายใหญ่หันมาให้ความสำคัญกับยานพาหนะที่เชื่อมต่อกัน นี่อาจเป็นหนึ่งในแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่ทะเยอทะยานที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นที่พูดถึงกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ปี 2024 อาจจะแตกต่างออกไป
5. AR & VR เพื่อการศึกษา
ธุรกิจและผู้บริโภคไม่ใช่ภาคส่วนเดียวที่เพลิดเพลินกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว มีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในด้านการศึกษามากมายเช่นกัน หนึ่งนั้นคือการบูรณาการ Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR)
AR และ VR สามารถเติมสีสันให้กับการศึกษาได้ ทำให้การเรียนรู้สนุกสนาน ให้ข้อมูล และใช้จินตนาการ นอกจากจะไม่เป็นอันตรายแล้ว ยังเพิ่มการมีส่วนร่วมมากกว่าการบรรยายแบบเดิม ๆ นับพันเท่าอีกด้วย จึงไม่แปลกใจว่าทำไมบริษัทใหญ่ ๆ ถึงให้ความสนใจกับแนวโน้มนี้
การศึกษา การเงิน ยานยนต์ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ กำลังเปิดรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันแการปรับปรุงให้ทันสมัยยังให้ประโยชน์ที่แนวทางดั้งเดิมไม่สามารถทำได้ แต่ยิ่งกว่านั้น สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าการติดตาม เทรนด์ Digital Transformation เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับหลายภาคส่วน
ติดต่อเรา บริษัท ดับเบิ้ล ไพน์ จำกัดเป็นผู้ให้ปรึกษาและบริการเกี่ยวกับ Digital Transformation ช่วยพลิกโฉมการทำงานแบบเดิม ด้วยการเพิ่มศักยภาพทางด้านเครื่องมือ ปรับเปลี่ยนขั้นตอนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำ Technology มาใช้เป็นเครื่องมือให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นระบบ ERP หรือ MRP เพื่อให้บุคลากรสามารถใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสามารถเข้าชมเว็บไซต์ได้ที่ https://www.mac5legacy.com/digitaltransformation
ที่มาข้อมูล: https://financesonline.com