เลือก ERP อย่างไร ให้เหมาะกับธุรกิจร้านอาหาร

สำหรับเจ้าของร้านอาหารที่มีหลายสาขาต้องเผชิญ คือ การติดตามร้านอาหารแต่ละแห่ง เนื่องจากไม่สามารถเข้าไปดูแลเพื่อควบคุมการดำเนินงานพร้อม ๆ กันทุกสาขาได้ ดังนั้นควรใช้ซอฟต์แวร์ ERP โปรแกรมร้านอาหารที่มีประสิทธิภาพ เพื่อจัดการเครือข่ายร้านอาหาร

ซอฟต์แวร์ ERP สำหรับร้านอาหารสามารถจัดการได้ทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ โดยดำเนินงานจากจุดศูนย์กลางเพียงจุดเดียว ในบทความนี้เราจะอธิบายวิธีจัดการเครือข่ายร้านอาหารด้วยการใช้ซอฟต์แวร์การจัดซื้อและฟีเจอร์เด่น ๆ ที่ควรพิจารณาขณะเลือกเครือข่ายร้านอาหารสำหรับธุรกิจร้านอาหาร

คุณสมบัติการจัดการร้านอาหารที่ควรมองหาในซอฟต์แวร์ ERP

แม้ว่าการจัดการเครือข่ายร้านอาหารจะมีอุปสรรคมากมาย แต่คุณสามารถทำได้ง่ายขึ้นเพียงเลือกใช้ ERP โปรแกรมร้านอาหารที่เหมาะสม โดยคุณสมบัติที่ควรมองหามีดังนี้

1. การรายงานที่ละเอียดหลายระดับ

หากคุณเปิดร้านอาหารที่มีเครือข่ายขนาดใหญ่ สิ่งหนึ่งที่ควรกังวลคือการควบคุมการดำเนินงานร้านอาหารทั้งหมดอย่างเข้มงวด แม้ว่าคุณจะไม่ได้อยู่ที่ร้านก็ตาม การใช้ซอฟต์แวร์ ERP ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้รับรายงานแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับกิจกรรมทั้งหมดของร้านอาหาร รายงานเหล่านี้ประกอบด้วยจำนวนใบเสร็จเก็บเงิน ส่วนลด จำนวนออเดอร์ สินค้าคงคลังที่มีอยู่และสต็อกที่ใช้ในแต่ละวัน รวมถึงผลการปฏิบัติงานของพนักงานแต่ละคน และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

2. การจัดการสต็อกและสินค้าคงคลัง

ส่วนที่เพิ่มค่าใช้จ่ายให้กับร้านอาหารก็คือสต๊อกสินค้าและสินค้าคงคลัง หากไม่ควบคุมสต็อกและสินค้าคงคลังอย่างเข้มงวด อาจมีแนวโน้มที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากไปกับการสร้างขยะในครัว การโจรกรรม และการลักขโมย การติดตามสต็อกที่ใช้ในแต่ละวันของแต่ละสาขาจะกลายเป็นเรื่องยากทันทีหากคุณรวบรวมรายงานด้วยตนเอง แต่ ERP โปรแกรมร้านอาหารจะช่วยให้คุณมีรายงานความต้องการสต็อกของร้านอาหารแต่ละสาขา

ซอฟต์แวร์ ERP สำหรับร้านอาหารจะส่งรายงานแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับสต็อกที่ใช้และสต็อกที่มีอยู่ ตอนต้นและตอนท้ายของวัน

• สามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงระหว่างสต็อกที่ควรใช้ในระหว่างวันกับสต็อกจริงที่มีอยู่

• รายงานผลต่าง สามารถตรวจสอบได้หากมีการยักยอกเกิดขึ้นในส่วนสินค้าคงคลัง

• หากมีครัวกลางที่เป็นจุดหมุนเวียนวัตถุดิบไปยังร้านอาหารต่าง ๆ ความต้องการสต็อกของร้านอาหารแต่ละสาขาจะแสดงใน POS ส่วนกลาง

• ระบบ MRP สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์เมื่อรายการต่าง ๆ ถึงระดับที่ต้องสั่งซื้อใหม่ นอกจากนี้ยังสามารถจัดการอายุการเก็บรักษาของสินค้าได้ โดยเฉพาะของที่เน่าเสียง่าย

• สามารถอัปเดตการจัดการสูตรอาหารจากส่วนกลาง ซึ่งจะแชร์กับร้านอาหารทั้งหมดทันที ทำให้รายการอาหารที่นำเสนอมีความสอดคล้องกัน

• คุณสมบัติการจัดการสูตรจะหักจำนวนสต็อกที่ใช้โดยอัตโนมัติตามจำนวนคำสั่งซื้อ

3. การจัดการครัวกลาง

หากคุณเปิดร้านอาหารหลายสาขา การตั้งค่าห้องครัวกลางถือเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นที่จำเป็น เมื่อตั้งค่าชุดครัวหลักแล้ว จะช่วยลดความยุ่งยากในการปฏิบัติงานได้โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม การจัดการชุดครัวหลักจากที่วัตถุดิบที่จะหมุนเวียนไปยังร้านอื่น ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย

วิธีการจัดการครัวกลางแบบครอบคลุม จะช่วยให้คุณควบคุมการผลิตอาหารในร้านอาหารได้อย่างเข้มงวด ได้แก่

(1) การจัดการผลผลิต

• ซอฟต์แวร์ ERP สำหรับร้านอาหารมาพร้อมกับฟีเจอร์การจัดการครัวกลางอันชาญฉลาด ช่วยให้คุณสามารถคำนวณผลผลิตของสต็อกได้

(2) การควบคุมต้นทุนอาหาร

• ห้องครัวกลางช่วยให้คุณดูต้นทุนอาหารที่เกิดขึ้นในร้านอาหารต่าง ๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง ด้วยวิธีนี้จึงสามารถเปรียบเทียบต้นทุนและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแต่ละร้านได้

• สามารถดูต้นทุนอาหารตามจริงและต้นทุนอาหารตามเป้าหมาย ในช่วงวันที่ที่ระบุได้ จากนั้นเปรียบเทียบด้วยการคำนวณความแปรปรวน

(3) การรักษาสูตรให้สม่ำเสมอ

• การรักษาความสม่ำเสมอในด้านรสชาติ ปริมาณ และคุณภาพถือเป็นสิ่งสำคัญเมื่อดำเนินกิจร้านอาหาร การใช้สูตรอาหารที่เหมือนกันสำหรับทุกร้าน จะช่วยสร้างความมั่นใจในเรื่องเหล่านี้ได้

(4) การวางแผนล่วงหน้า

• สามารถคาดการณ์จำนวนสต็อกที่จำเป็นสำหรับเดือนที่กำลังจะมาถึงได้

• วางแผนจำนวนสินค้าในสต็อกที่จำเป็นต่อความต้องการสินค้าคงคลังของร้านอาหารแต่ละสาขา

(5) การจัดการคลังสินค้า

• กระจายวัตถุดิบแปรรูปและกึ่งแปรรูปตามความต้อง การสต็อกของร้านอาหาร

4. การจัดการผู้ขาย

เนื่องจากต้องมีวัตถุดิบและส่วนผสมที่หลากหลายสำหรับห้องครัวร้านอาหาร สินค้าบางรายการสามารถซื้อและจัดเก็บได้เป็นรายเดือนและรายสัปดาห์ ในขณะที่สินค้าเน่าเสียง่ายบางรายการจำเป็นต้องจัดซื้อทุกวัน ซอฟต์แวร์ ERP สำหรับร้านอาหารช่วยให้การติดต่อสั่งซื้อกับผู้ขายทำได้ง่ายขึ้น ด้วยคุณสมบัติการจัดการผู้ขายแบบรวม คุณสามารถ

• จัดการกับผู้ขายของร้านค้าหลายแห่งได้จากส่วนกลาง

• ระบุรายละเอียดการติดต่อและข้อมูลทั้งหมดของผู้ขาย

• ดูและจัดการราคาของผู้ขายหลายรายจากร้านค้าหลายแห่ง

5. การควบคุมข้อมูลจากฐานข้อมูลเดียวกัน

ซอฟต์แวร์ ERP มีฐานข้อมูลลูกค้าทุกสาขา โดยร้านอาหารแต่ละแห่งสามารถใช้ข้อมูลเหล่านั้นได้ ตัวอย่างเช่น ลูกค้าไม่จำเป็นต้องให้ข้อมูลการติดต่อซ้ำหากเคยไปรับประทานอาหารในสาขาใดสาขาหนึ่ง เพราะประวัติการสั่งซื้อและรายละเอียดการติดต่อทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้ใน CRM ส่วนกลาง และสามารถใช้เพื่อดำเนินแคมเปญการตลาดแบบกำหนดเป้าหมายได้

การใช้แคมเปญการตลาดแบบกำหนดเป้าหมายเป็นสิ่งที่กลุ่มร้านอาหารต้องสร้างกลยุทธ์เสมอมา เนื่องจากกลุ่มประชากรลูกค้าแตกต่างกันไปตามร้านอาหารต่าง ๆ แคมเปญการตลาดจึงต้องได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับลูกค้าในสาขานั้น ๆ

การจัดการร้านอาหารหลายสาขาถือเป็นงานที่หนักหนาพอสมควร และอาจเสี่ยงต่อความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นได้ในแต่ละวัน ดังนั้นการมองหาซอฟต์แวร์ ERP สำหรับร้านอาหารที่มาพร้อมกับคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพื่อการจัดการร้านอาหารที่ราบรื่น

สามารถติดต่อบริษัท ดับเบิ้ล ไพน์ จำกัด เราให้บริการเกี่ยวกับ Digital Transformation เป็นที่ปรึกษาด้านดิจิทัลและพัฒนาเทคโนโลยีภายในองค์กร ช่วยพลิกโฉมการทำงานแบบเดิม ด้วยการเพิ่มศักยภาพทางด้านเครื่องมือ ปรับเปลี่ยนขั้นตอนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำ Technology มาใช้เป็นเครื่องมือให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นระบบ ERP หรือ MRP สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ได้ที่ mac5legacy.com

ที่มาข้อมูล: posist.com