ติดในส่วนเปิด tag
top of page

ไขความกระจ่าง ต้นทุนคืออะไร? มีกี่ประเภท ทำไมคนทำธุรกิจต้องรู้

  • Admin Ham
  • 30 พ.ค.
  • ยาว 2 นาที

ทุกธุรกิจคงคุ้นเคยกับคำว่า 'ต้นทุน' เป็นอย่างดี แต่มั่นใจหรือเปล่าว่าเข้าใจความหมายและประเภทของมันอย่างแท้จริงไหม? รู้ไหมว่าการจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นสำคัญมาก ๆ และเป็นหัวใจหลักของความสำเร็จทางธุรกิจเลยทีเดียว ซึ่งการรู้ว่าต้นทุนมีอะไรบ้าง และแบ่งประเภทอย่างไร จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมค่าใช้จ่ายได้ชัดเจนขึ้น ทำให้ตัดสินใจเรื่องธุรกิจต่าง ๆ ได้อย่างเฉียบคมยิ่งกว่าเดิม บทความนี้ Mac-5 Legacy จึงจะพาคุณไปทำความรู้จักกับพื้นฐานเรื่องต้นทุน และการแบ่งประเภทแบบง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็เข้าใจได้


ต้นทุน คืออะไร ?

ต้นทุน (Cost) ในทางบัญชีและการบริหาร คือ มูลค่าของทรัพยากรที่องค์กรต้องสละหรือจ่ายไปเพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้า บริการ หรือประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต ทรัพยากรเหล่านี้อาจอยู่ในรูปของตัวเงิน สินทรัพย์ หรือเวลา ซึ่งต้นทุนไม่ได้หมายถึงแค่ราคาซื้อสินค้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน เช่น ค่าแรง ค่าวัตถุดิบ ค่าขนส่ง ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ด้วย การทำความเข้าใจและบันทึกต้นทุนอย่างถูกต้อง จึงเป็นพื้นฐานสำคัญในการวัดผลกำไร และประเมินสถานะทางการเงินของกิจการ


ต้นทุน มีกี่ประเภท


ต้นทุน มีกี่ประเภท

การจำแนกประเภทต้นทุนช่วยให้ผู้บริหารสามารถวิเคราะห์และใช้ข้อมูลต้นทุนได้อย่างเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ โดยสามารถจำแนกได้หลายวิธีตามเกณฑ์ที่แตกต่างกัน ดังนี้


จำแนกตามลักษณะพฤติกรรมต้นทุน (By Cost Behavior)

เป็นการแบ่งตามการเปลี่ยนแปลงของต้นทุน เมื่อระดับกิจกรรมหรือปริมาณการผลิตเปลี่ยนแปลงไป


  • ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs) คือ ต้นทุนที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิตหรือการขายในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น ค่าเช่าโรงงาน เงินเดือนผู้บริหาร ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร (วิธีเส้นตรง)

  • ต้นทุนผันแปร (Variable Costs) คือ ต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกับปริมาณการผลิตหรือการขาย ยิ่งผลิตมาก ต้นทุนรวมยิ่งสูงขึ้น เช่น ค่าวัตถุดิบทางตรง ค่าแรงงานทางตรง ค่านายหน้าการขาย

  • ต้นทุนผสม (Mixed Costs) คือ ต้นทุนที่มีลักษณะทั้งคงที่และผันแปรรวมกัน เช่น ค่าโทรศัพท์ (มีค่าบริการพื้นฐานคงที่ + ค่าโทรตามการใช้งานผันแปร) ค่าไฟฟ้า


จำแนกตามความสัมพันธ์กับสินค้าหรือบริการ (By Relation to Product/Service)

เป็นการแบ่งตามความสามารถในการระบุต้นทุนเข้ากับสินค้าหรือบริการที่ผลิต


  • ต้นทุนทางตรง (Direct Costs) ต้นทุนที่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าเกิดขึ้นเพื่อผลิตสินค้าหรือบริการนั้น ๆ โดยเฉพาะ และคุ้มค่าที่จะติดตาม เช่น วัตถุดิบทางตรงที่ใช้ผลิตสินค้า ค่าแรงงานพนักงานฝ่ายผลิตโดยตรง

  • ต้นทุนทางอ้อม (Indirect Costs) ต้นทุนที่ไม่สามารถระบุเข้ากับสินค้าหรือบริการชนิดใดชนิดหนึ่งโดยตรงได้ หรือถึงระบุได้แต่ก็ไม่คุ้มค่าที่จะติดตาม ต้องใช้วิธีการปันส่วนเข้าสู่ต้นทุนสินค้าและบริการ เช่น ค่าวัตถุดิบทางอ้อม เช่น ตะปู กาว ค่าแรงงานทางอ้อม เช่น เงินเดือนหัวหน้างาน ค่าเช่าโรงงาน ค่าสาธารณูปโภคในโรงงาน รวมเรียกว่า ค่าใช้จ่ายการผลิต หรือ Manufacturing Overhead


จำแนกตามหน้าที่งานในองค์กร (By Business Function)

เป็นการแบ่งตามหน้าที่ความรับผิดชอบภายในองค์กร


  • ต้นทุนการผลิต (Manufacturing Costs) ต้นทุนทั้งหมดที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตสินค้า ประกอบด้วย วัตถุดิบทางตรง (DM), ค่าแรงงานทางตรง (DL), และค่าใช้จ่ายการผลิต (MOH)

  • ต้นทุนที่ไม่ใช่การผลิต (Non-Manufacturing Costs) ต้นทุนอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตโดยตรง แบ่งเป็น

    • ค่าใช้จ่ายในการขาย (Selling Expenses) ต้นทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งคำสั่งซื้อและส่งมอบสินค้า/บริการ เช่น ค่านายหน้า เงินเดือนพนักงานขาย ค่าโฆษณา ค่าขนส่งออก

    • ค่าใช้จ่ายในการบริหาร (Administrative Expenses) ต้นทุนที่เกี่ยวกับการบริหารงานทั่วไปขององค์กร เช่น เงินเดือนผู้บริหารสำนักงาน ค่าเช่าสำนักงาน ค่าใช้จ่ายแผนกบัญชี/บุคคล


สูตรคำนวนต้นทุนและตัวอย่างวิธีคำนวณ เพื่อปรับใช้กับธุรกิจ

การรู้ต้นทุนที่แท้จริงของสินค้าหรือบริการ เป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจให้รอดและมีกำไร เรามาดูวิธีคำนวณแบบกระชับกัน


1. รู้จักประเภทต้นทุนหลัก

  • ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs) คือ ต้นทุนที่จ่ายเท่าเดิม ไม่ว่าผลิตมากหรือน้อย เช่น ค่าเช่าร้าน, เงินเดือนพนักงานออฟฟิศ

  • ต้นทุนผันแปร (Variable Costs) คือ ต้นทุนที่เปลี่ยนไปตามจำนวนที่ผลิตหรือขาย เช่น ค่าวัตถุดิบ, ค่าแรงคนงานผลิต (จ่ายตามชิ้น)


2. สูตรคำนวณต้นทุน

  • ต้นทุนรวม

ต้นทุนรวม = ต้นทุนคงที่ทั้งหมด + ต้นทุนผันแปรทั้งหมด

  • ต้นทุนต่อหน่วย เช่น ต่อชิ้น, ต่อจาน, ต่อครั้งบริการ

ต้นทุนต่อหน่วย = จำนวนหน่วยที่ผลิต ÷ ขายต้นทุนรวม​

  • จุดคุ้มทุน (ขายเท่าไหร่ถึงจะไม่ขาดทุน)

    • ต้องรู้ก่อนว่ากำไรส่วนเกินต่อหน่วยคือเท่าไหร่

กำไรส่วนเกินต่อหน่วย = ราคาขายต่อหน่วย − ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย

  • จากนั้นหาจุดคุ้มทุน (จำนวนหน่วย)

จุดคุ้มทุน (หน่วย) = ต้นทุนคงที่รวม​ ÷ กำไรส่วนเกินต่อหน่วย

หมายความว่า ต้องขายให้ได้อย่างน้อยเท่านี้ชิ้น ถึงจะเริ่มเห็นกำไร


3. ตัวอย่างวิธีคำนวณต้นทุน

สมมุติว่าเรามีโรงงานทำเก้าอี้ไม้ และต้องการหาต้นทุนของเก้าอี้ 1 ตัว

  • ต้นทุนทางตรง

ค่าไม้ (150 บ.) + ค่าแรงช่าง (50 บ.) = 200 บาท/ตัว

  • ต้นทุนทางอ้อม (ค่าใช้จ่ายโรงงาน)

เช่น ค่าเช่า, ค่าไฟ สมมุติรวม 100,000 บาทต่อเดือน ผลิตได้ 1,000 ตัว = เฉลี่ย 100 บาท/ตัว

  • รวมต้นทุนผลิตต่อตัว

200 (ทางตรง) + 100 (ทางอ้อม) = 300 บาท/ตัว

การคำนวณต้นทุนอาจดูซับซ้อนในช่วงแรก แต่เมื่อเข้าใจหลักการแล้ว จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนขึ้น


ต้นทุนมีประโยชน์อะไรบ้าง


ต้นทุน คำนวณอย่างไร

การทำความเข้าใจโครงสร้างต้นทุนอย่างถ่องแท้ จะทำให้เราได้ข้อมูลเชิงลึก ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจได้ในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้

  • ช่วยกำหนดราคาขายที่แม่นยำ ตั้งราคาที่ครอบคลุมต้นทุนและสร้างกำไรที่เหมาะสม

  • ช่วยควบคุมค่าใช้จ่าย มองเห็นจุดที่ควรลดหรือควบคุมต้นทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

  • ช่วยให้ตัดสินใจทางธุรกิจได้ดีขึ้น มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าจะผลิตสินค้าใด ควรลงทุนเพิ่มหรือไม่

  • ช่วยวางแผนและจัดทำงบประมาณ คาดการณ์ค่าใช้จ่ายในอนาคตได้อย่างแม่นยำ

  • ช่วยวัดผลกำไรและประสิทธิภาพ ประเมินได้ว่าสินค้าหรือบริการใดทำกำไรได้ดี และการดำเนินงานมีประสิทธิภาพเพียงใด


ข้อควรระวังในการคำนวนต้นทุน

เพื่อให้ข้อมูลต้นทุนมีความน่าเชื่อถือและนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง ควรระมัดระวังในประเด็นต่อไปนี้

  • ความถูกต้อง ครบถ้วน และทันสมัยของข้อมูล ข้อมูลที่ใช้คำนวณต้องแม่นยำและเป็นปัจจุบัน

  • การเลือกใช้วิธีปันส่วนต้นทุนทางอ้อม ควรเลือกวิธีที่สมเหตุสมผล และสอดคล้องกับลักษณะธุรกิจที่สุด

  • ความเข้าใจในพฤติกรรมต้นทุน การแยกต้นทุนคงที่และผันแปรผิดพลาด จะส่งผลต่อการวิเคราะห์และการตัดสินใจ

  • การระบุต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ ต้องแยกแยะต้นทุนที่เกี่ยวข้อง (Relevant Cost) ออกจากต้นทุนที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น ต้นทุนจม (Sunk Cost)

  • ความสม่ำเสมอในการบันทึกและคำนวณ ควรใช้วิธีการและหลักเกณฑ์เดียวกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เปรียบเทียบข้อมูลได้


บริหารจัดการต้นทุนอย่างมืออาชีพ ปรึกษา Mac-5 Legacy


ต้นทุน หมายถึงอะไร

การรู้ว่าต้นทุนคืออะไร และมีกี่ประเภทนั้น เป็นเรื่องพื้นฐานที่สำคัญมากสำหรับทุกธุรกิจและไม่ควรมองข้าม เพราะความเข้าใจนี้เปรียบเสมือนกุญแจดอกสำคัญที่จะช่วยให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี และตัดสินใจทางธุรกิจต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำพาธุรกิจไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนได้

อย่างไรก็ตาม การรวบรวม จัดประเภท และวิเคราะห์ข้อมูลต้นทุนที่ค่อนข้างซับซ้อน ก็อาจเป็นเรื่องที่ท้าทายอยู่ไม่น้อยสำหรับหลาย ๆ กิจการ Mac-5 Legacy จึงพร้อมเป็นผู้ช่วยให้การบริหารต้นทุนของคุณง่ายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยระบบ ERP ที่พัฒนาโดยคนไทยเพื่อธุรกิจไทยโดยเฉพาะ

โปรแกรม ERP ของเรามีฟังก์ชันครอบคลุม ช่วยให้คุณสามารถบันทึกและติดตามต้นทุนประเภทต่าง ๆ ได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนคงที่ ต้นทุนผันแปร ต้นทุนทางตรง หรือต้นทุนทางอ้อม พร้อมระบบรายงานที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลต้นทุนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้คุณมองเห็นภาพรวมค่าใช้จ่ายและบริหารจัดการได้อย่างมืออาชีพ นอกจากนี้ Mac-5 Legacy ยังมีแพ็กเกจและราคาที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกขนาดธุรกิจ พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำทุกเมื่อ ปรึกษา MAC-5 Legacy และเยี่ยมชมเว็บไซต์เพิ่มเติมได้ที่ https://www.mac5legacy.com/digitaltransformation

 
 
 

Comments


bottom of page